ออกกำลังกายแบบนี้ช่วยเผาผลาญเท่าไหร่
หลายคนกำลังออกกำลังกายเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น หรือออกกำลังกายเพื่อลดความอ้วน ถ้าทำแบบนี้ทุกวันเป็นนิสัย ร่างกายของเราจะเผาผลาญได้มากขึ้น สามารถลดความอ้วนได้ง่ายขึ้น ส่งผลให้สุขภาพดีขึ้นนั่นเอง แต่สิ่งสำคัญคือถ้าได้รู้ว่าวิธีออกกำลังกายจะเผาผลาญได้เท่าไหร่จะช่วยให้เราวางแผนการใช้ชีวิต วางแผนเวลาได้ดีขึ้นเยอะเลยค่ะ
ในบทความนี้โคโคเน่ขอแนะนำค่าการเผาผลาญของการออกกำลังชนิดต่างๆ แบบต่อเนื่องไม่พัก (หน่อยเป็นกิโลแคลลอรี่ต่อชั่วโมง) ที่ทำให้เราเห็นภาพมากขึ้นว่า ความเป็นจริงแล้วการออกกำลังกายช่วยลดน้ำหนักได้มากอย่างที่เราคิดหรือเปล่า
เต้นแอโรบิกเผาผลาญเท่าไหร่
พลังงานที่ใช้สำหรับคนที่หนัก 50 กิโลกรัม เต้นแอโรบิกเผาผลาญได้ 160 กิโลแคลลอรี่/ชั่วโมง
พลังงานที่ใช้สำหรับคนที่หนัก 100 กิโลกรัม เต้นแอโรบิกเผาผลาญได้ 320 กิโลแคลลอรี่/ชั่วโมง
(แคลลอรี่ต่อน้ำหนัก 3.2)
แบดมินตันเผาผลาญเท่าไหร่
พลังงานที่ใช้สำหรับคนที่หนัก 50 กิโลกรัม ตีแบดมินตันเผาผลาญได้ 165 กิโลแคลลอรี่/ชั่วโมง
พลังงานที่ใช้สำหรับคนที่หนัก 100 กิโลกรัม ตีแบดมินตันเผาผลาญได้ 331 กิโลแคลลอรี่/ชั่วโมง
(แคลลอรี่ต่อน้ำหนัก 3.31)
บาสเกตบอลเผาผลาญเท่าไหร่
พลังงานที่ใช้สำหรับคนที่หนัก 50 กิโลกรัม บาสเกตบอลเผาผลาญได้ 243 กิโลแคลลอรี่/ชั่วโมง
พลังงานที่ใช้สำหรับคนที่หนัก 100 กิโลกรัม บาสเกตบอลเผาผลาญได้ 485 กิโลแคลลอรี่/ชั่วโมง
(แคลลอรี่ต่อน้ำหนัก 4.85)
ฟุตบอลเผาผลาญเท่าไหร่
พลังงานที่ใช้สำหรับคนที่หนัก 50 กิโลกรัม เล่นฟุตบอลเผาผลาญได้ 215 กิโลแคลลอรี่/ชั่วโมง
พลังงานที่ใช้สำหรับคนที่หนัก 100 กิโลกรัม เล่นฟุตบอลเผาผลาญได้ 430 กิโลแคลลอรี่/ชั่วโมง
(แคลลอรี่ต่อน้ำหนัก 4.3)
เทนนิสเผาผลาญเท่าไหร่
พลังงานที่ใช้สำหรับคนที่หนัก 50 กิโลกรัม เทนนิสเผาผลาญได้ 176 กิโลแคลลอรี่/ชั่วโมง
พลังงานที่ใช้สำหรับคนที่หนัก 100 กิโลกรัม เทนนิสเผาผลาญได้ 353 กิโลแคลลอรี่/ชั่วโมง
(แคลลอรี่ต่อน้ำหนัก 3.53)
ปั่นจักรยาน 15 km/h เผาผลาญเท่าไหร่
พลังงานที่ใช้สำหรับคนที่หนัก 50 กิโลกรัม ปั่นจักรยานเผาผลาญได้ 138 กิโลแคลลอรี่/ชั่วโมง
พลังงานที่ใช้สำหรับคนที่หนัก 100 กิโลกรัม ปั่นจักรยานเผาผลาญได้ 276 กิโลแคลลอรี่/ชั่วโมง
(แคลลอรี่ต่อน้ำหนัก 2.76)
เดิน 5 km/h เผาผลาญเท่าไหร่
พลังงานที่ใช้สำหรับคนที่หนัก 50 กิโลกรัม เดินออกกำลังกายเผาผลาญได้ 88 กิโลแคลลอรี่/ชั่วโมง
พลังงานที่ใช้สำหรับคนที่หนัก 100 กิโลกรัม เดินออกกำลังกายเผาผลาญได้ 176 กิโลแคลลอรี่/ชั่วโมง
(แคลลอรี่ต่อน้ำหนัก 1.76)
เดิน 10 km/h เผาผลาญเท่าไหร่
พลังงานที่ใช้สำหรับคนที่หนัก 50 กิโลกรัม เดินออกกำลังกายเผาผลาญได้ 254 กิโลแคลลอรี่/ชั่วโมง
พลังงานที่ใช้สำหรับคนที่หนัก 100 กิโลกรัม เดินออกกำลังกายเผาผลาญได้ 507 กิโลแคลลอรี่/ชั่วโมง
(แคลลอรี่ต่อน้ำหนัก 5.07)
วิ่ง 16 km/h เผาผลาญเท่าไหร่
พลังงานที่ใช้สำหรับคนที่หนัก 50 กิโลกรัม วิ่งออกกำลังกายเผาผลาญได้ 386 กิโลแคลลอรี่/ชั่วโมง
พลังงานที่ใช้สำหรับคนที่หนัก 100 กิโลกรัม วิ่งออกกำลังกายเผาผลาญได้ 772 กิโลแคลลอรี่/ชั่วโมง
(แคลลอรี่ต่อน้ำหนัก 7.72)
ว่ายน้ำ 50 เมตร/นาที เผาผลาญเท่าไหร่
พลังงานที่ใช้สำหรับคนที่หนัก 50 กิโลกรัม ว่ายน้ำเผาผลาญได้ 386 กิโลแคลลอรี่/ชั่วโมง
พลังงานที่ใช้สำหรับคนที่หนัก 100 กิโลกรัม ว่ายน้ำเผาผลาญได้ 772 กิโลแคลลอรี่/ชั่วโมง
(แคลลอรี่ต่อน้ำหนัก 4.96)
จากข้อมูลด้านบนสามารถคำนวณว่าเราใช้พลังงานไปเท่าไหร่ในกิจกรรมต่างๆ โดยเอาแคลลอรี่ต่อน้ำหนัก คูณด้วยน้ำหนักของเรา เช่น หากเราหนัก 50 กิโลกรัม เราว่ายน้ำต่อเนื่องไม่พักเลย 1 ชั่วโมง แคลลอรี่ต่อน้ำหนักเท่ากับ 4.96 ฉะนั้น เราจะเผาผลาญพลังงานไปเท่ากับ 50 x 4.96 = 248 กิโลแคลลอรี่
การออกกำลังกายจะช่วยให้ร่างกายเราเผาผลาญได้มากขึ้น เฉพาะในกรณีที่เราออกกำลังกายหนักพอ นานพอ และสม่ำเสมอพอเท่านั้น และแม้ว่าเราจะออกกำลังกายหนักพอและนานพอ ก็ไม่แน่เสมอไปว่าเราจะสามารถลดน้ำหนักลงได้ เช่นปกติรางกายเราเผาผลาญประมาณ 1,800 กิโลแคลลอรี่ต่อวัน และเราทานอาหารได้พลังงานประมาณ 1,800 กิโลแคลลอรี่ต่อวัน (น้ำหนักตัวคงที่)
แล้วเราว่ายน้ำครั้งละ 1 ชั่งโมงต่อเนื่อง จนร่างกายเผาผลาญเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 กิโลแคลลอรี่ต่อวัน ตอนนี้พลังงานที่ได้จากอาหารน้อยกว่าพลังงานที่เราใช้ 200 กิโลแคลลอรี่ต่อวัน เราจะลดน้ำหนักได้ประมาณเดือนละ 1 กิโลกรัม สิ่งที่เราต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้องก็คือ หากเราออกกำลังกายไม่ต่อเนื่อง เช่นไปว่ายน้ำ 1 ชั่วโมง แต่ 5 นาทีพักที 10 นาทีพักที ร่างกายเราจะเผาผลาญน้อยกว่าว่ายต่อเนื่องไม่หยุด อาจจะเหลือประมาณ 100 กิโลแคลลอรี่ต่อวัน
การออกกำลังกายแบบนี้ทุกวันจะช่วยเราลดน้ำหนักได้เพียงครึ่งกิโลกรัมต่อเดือนเท่านั้น และบางคนออกกำลังกายเสร็จดื่มน้ำอัดลม 1 กระป๋อง หรือขนม 1 ถุงซึ่งให้พลังงาน 100-200 กิโลแคลลอรี่ต่อวัน ซึ่งพอๆกับพลังงานที่ใช้ในการออกกำลังกาย จำทำให้ความพยายามในการออกกำลังกายเป็นสิ่งไร้ค่า เพราะใช้เท่าไหร่ก็กินเท่านั้น แถมยังกินเกินอีก นอกจากน้ำหนักจะไม่ลดแล้ว ยังอาจจะกลายเป็นคนล่ำบึ๊กอีกด้วยเพราะกร้ามเนื้อที่เพิ่มขึ้น คงทำให้เราเห็นภาพมากขึ้นว่าหากเราออกกำงกายโดยไม่ควบคุมอาหารที่ทาน โอกาสลดน้ำหนักได้จะน้อยมาก สรุปว่าการออกกำลังกายจะช่วยให้เราลดน้ำหนักได้ก็ต่อเมื่อ พลังงานที่เราได้จากอาหารที่ทาน น้อยกว่าพลังงานที่ร่างกายเผาผลาญเท่านั้น เพราะฉะนั้นแอดมินขอแนะนำน้ำมันมะพร้าวที่จะช่วยให้ออกกำลังกายเผาผลาญมากขึ้น ไม่กินขนมจุกจิก จะอิ่มไว ไม่ทานเกินที่ร่างกายเผาผลาญได้ ที่สำคัญน้ำมันมะพร้าวจะช่วยลดน้ำหนักได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น
ทำไมต้องใช้น้ำมันมะพร้าวลดความอ้วน
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
วิธีกินน้ำมันมะพร้าวลดความอ้วน วิธีลดความอ้วนแบบไม่ให้โยโย่ ไม่โทรม สุขภาพดี