อาหารมื้อเช้า มื้ออาหารที่ขาดไม่ได้ อาหารมื้อเช้าสำคัญขนาดไหนมาดูกัน

คนส่วนใหญ่จะไม่ทานอาหารเช้า หรือพยายามทานให้น้อยที่สุด (บางคนทานแค่นม กาแฟ) หรือบางคนอาจจะเร่งรีบในตอนเช้าจึงถือโอการไม่ทานอาหารเช้าเพื่อประหยัดเวลา ประหยัดเงิน และควบคุมน้ำหนักไปด้วย แต่การไม่ทานอาหารมื้อเช้าหรือทานน้อยๆ แทนที่เกิดประโยชน์อย่างที่เราคิด กลับมีโทษมากกว่าประโยชน์อย่างมากมายเลยนะคะ ลองคิดตามดูว่าหากเราไม่ทานอาหารมื้อเช้า แล้วมาทานตอนเที่ยง ร่างกายเราจะไม่ได้รับสารอาหารติดต่อกันนาน 16-18 ชั่วโมงกันเลยทีเดียว (นับตั้งแต่จากมื้อเย็นของเมื่อวานจนถึงมื้อเที่ยงของวันนี้) การที่ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารนานขนาดนั้น จะส่งผลต่อสุขภาพของเราอย่างไม่ต้องสงสัยเลยค่า (ปวดหัว ง่วงนอน จนถึงความดัน โรคหัวใจ) และมีผลงานวิจัยว่าคนที่ไม่ทานอาหารเช้าจะเสี่ยงเป็นโรคมะเร็งมากกว่าปกติ

ส่วนในเรื่องของการลดน้ำหนักนั้น การไม่ทานอาหารเช้าก็จะทำให้ร่างกายศูญเสียโปรตีน ร่างกายปรับตัวให้คล้ายสภาวะจำศีลของสัตว์ต่างๆ ซึ่งจะทำให้ร่างกายเผาผลาญน้อยลง เก็บสะสมไขมันมากขึ้นเช่นกัน ซึงจะส่งผลให้น้ำหนักตัวของเราลดลงยากยิ่งขึ้น และทำให้น้ำหนักตัวเราเพิ่มง่ายยิ่งขึ้น

ซึ่งเรื่องนี้มีผลงานวิจัยรับรอง โดยในสหรัฐฯได้ทำการวิจัยกับอาสาสมัครถึง 3,000 คน พบว่าร้อยละ 80 ของอาสาสมัครที่ประสบความสำเร็จในการลดน้ำหนัก และควบคุมน้ำหนักไม่ให้กลับมาเพิ่ม เป็นคนที่ทานอาหารมื้อเช้าเป็นประจำทั้งนั้น (และยังช่วยลดโอกาสเป็นโรคหัวใจอีกด้วย)

และการทานอาหารมื้อเช้า ยังทำให้ความอยากทานของจุกจิกมีน้อยลง และทานอาหารมื้ออื่นน้อยลง ทำให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องง่ายขึ้น ส่วนผู้ที่ไม่ทานอาหารเช้ามีแนวโน้มจะหิวระหว่างมื้อมากขึ้น ทานมื้อเที่ยงและมื้อเย็นมากขึ้น ทำให้การลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่ยากขึ้น

ฉะนั้นไม่ว่าเราจะต้องการลดน้ำหนักหรือต้องการรักษาน้ำหนักให้คงที่ก็ตาม อาหารมื้อเช้าคือมื้ออาหารที่เราขาดไม่ได้เด็ดขาด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราสามารถอดอาหารมื้ออื่นได้ เพราะผลที่ได้แม้จะไม่เท่าอดอาหารมื้อเช้า แต่ก็ไม่แตกต่างกันมาก เราจึงไม่ควรอดอาหารมื้อใดเลย

และที่สำคัญการทานน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นร่วมในมื้ออาหารจะช่วยทำให้อิ่มไว อิ่มนาน ไม่ทานอาหารจุกจิกด้วยค่ะ

กรดลอริกในน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็นโคโคเน่ เป็นไขมันอิ่มตัวชนิดหนึ่ง จัดเป็นกรดไขมันสายกลางซึ่งมีประโยชน์ต่อสุขภาพ พบในน้ำมันมะพร้าว 50% ของไขมันทั้งหมด พบในนมแม่ 6.2% ของไขมันทั้งหมด เมื่อรับประทานเข้าไปก็จะมีส่วนช่วยต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา เชื้อยีสต์ เชื้อโปรโตซัว เชื้อไวรัส อีกทั้งยังมีส่วนช่วยให้เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดการอักเสบได้ด้วยนะคะ (อ้างอิงจาก Dr. Eric Berg สหรัฐอเมริกา)